สาเหตุที่ต้องพูดถึงตำแหน่งเฮดโค้ชของ ‘ช้างศึก’ อย่างหนัก และหนาหู เพราะก่อนหน้านี้ดันมีการแต่งตั้งมาซาทาดะ อิชิอิ มมานั่งแท่นประธานเทคนิคเฉพาะฟุตบอลทีมชาติไทย ซึ่งหลายๆ ฝ่ายก็คาดว่าเป็นการเอามาจ่อเก้าอี้ของ มาโน่ และพร้อมปลดทันทีหากฟอร์มหรือผลงานไม่ถึงเป้าในศึก คิงส์คัพ ครั้งนี้
ศึกชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 49 มีทีมเข้าร่วมอีก 3 ทีมซึ่งอันดับเหนือกว่าไทยทั้งหมด ไล่มาตั้งแต่ อิรัก (อันดับ 70), อินเดีย (อันดับ 99) และเลบานอน (อันดับ 100) ส่วนทีมชาติไทย อยู่ในอันดับ 113 ซึ่งเป้าหมายสูงสุดคือการกลับมาคว้าแชมป์ให้ได้ เพราะครั้งล่าสุดต้องย้อนไปถึงปี 2017 ที่ในรอบชิงชนะเลิศ เอาชนะ เบลารุส ชุดบี ไปได้
ในเกมแรกเป็นการเจอกับ เลบานอน ทีมชาติไทย เลือกใช้ระบบ 3-5-2 แต่ใช้กองหลังอาชีพแค่เพียงรายเดียวเท่านั้นคือ พรรษา เหมวิบูลย์ ยืนตัวกลาง และขนาบข้างเป็น วีระเทพ ป้อมพันธุ์ กับกฤษดา กาแมน
ซึ่งการใช้กองกลาง ถอยมาเป็นกองหลังคือสิ่งที่ มาโน่ ชอบทำอยู่โดยเสมอมาตั้งแต่การคุมทีมระดับสโมสร สาเหตุหลักๆ เพราะเขาต้องการให้เริ่มเล่น เริ่มสร้างเกมมาตั้งแต่แดนหลัง ทำให้ต้องการคนที่ออกบอลแม่นๆ มายืน แต่ข้อเสียคือความมั่นคงในแนวรับจะหายไป
หลังเกม มาโน่ ออกมาชี้แจ้งสาเหตุการใช้ผู้เล่นแดนกลางไปยืนกองหลังว่า “ระบบการเล่นที่ใช้วันนี้มีการวิเคราะห์มาแล้วว่าเราจะครองเกมได้ดีกว่า ถึงเราจับเอา กฤษดา กาแมน กับวีระเทพ ป้อมพันธุ์ ที่เป็นกองกลางมาเล่นกองหลังเพราะคิดว่าจะช่วยให้คุมเกมได้ น่าจะเป็นประโยชน์กับทีมมากกว่า”
แต่แท็กติกดังกล่าวก็พาทีมชาติไทย เฉือนเอาชนะ เลบานนอน มาได้ 2-1 แม้ว่ารูปเกมโดยรวมจะน่าเบื่อ และชวนให้หลับ แต่หนึ่งคนที่โดดเด่นมากๆ คือ นิโคลัส มิคเกลสัน แบ็กขวาที่เต็มเกมได้แบบได้ใจแฟนบอลเต็มๆ รวมถึงเป็นคนแอสซิสต์ประตูชัยให้ ธีรศิลป์ แดงดา โหม่งอีกด้วย
ส่วนนัดที่สอง ที่เป็นรอบชิงชนะเลิศ ได้เจอกับ อิรัก ที่เรียกได้ว่าเป็นทีมระดับเกือบๆ หัวแถวของเอเชีย ซึ่งในนัดนี้ มาโน่ โพลกิ้ง ปรับมาใช้กองหลังคู่คือ พรรษา เหมวิบูลย์ กับเอเลียส ดอเลาะ โดยหวังว่าจะใช้ความสูงใหญ่เอาไปสู้กับลูกกลางอากาศของทีมจากตะวันออกกลาง
ด้วยสภาพอากาศที่ฝนตกหนัก และสนามที่ลื่น และมีน้ำขัง ทำให้อาจจะบอกได้ไม่เต็มที่ว่าฟอร์มจริงๆ ของทั้งสองทีมเป็นอย่างไร แต่ภาพรวมถือว่า ทีมชาติไทย ได้เล่น และได้บุกอยู่ตลอดทั้งเกม แม้ว่าจะโดนนำก่อน แต่ก็ตามตีเสมอกลับมาได้ทั้งสองครั้ง และไปแพ้ด้วยการดวลจุดโทษ ที่โอกาสมัน 50/50 อยู่แล้ว
ชื่นชมรูปแบบการเล่นที่เฮดโค้ชชาวบราซิลปรับมาให้สู้กับอิรัก ได้อย่างสนุก แต่ปัญญาก็มีให้เห็น และเป็นปัญหาเดิมๆ ของมาโน่ เสมอมา อันดับแรกคือ การตั้งรับลูกตั้งเตะ ไม่ว่าจะเป็นฟรีคิก ลูกเตะมุม จนไปถึงลูกทุ่มไกล ทีมชาติไทย เสียประตูมากมายจากจังหวะดังกล่าว รวมถึงในทั้งสองเกมที่ผ่านมานี้ด้วย
ส่วนอีกหนึ่งปัญหาคือการแก้เกม ที่ ‘ช้างศึก‘ ชุดนี้เปลี่ยนตัวช้าเหลือเกิน ส่วนมาก็เกือบจะเข้าไปช่วง 10 นาทีสุดท้ายแล้ว และตัวผู้เล่นส่วนมากที่ มาโน่ เลือกเปลี่ยนลงมาก็เป็นหน้าเดิมๆ อย่าง พีรพัฒน์ โน้ตชัยยา, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ที่แถบจะได้ลงทุกเกม
หลังจบเกมนัดชิงชนะเลิศ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ก็ประกาศอย่างชัดเจนว่า มาโน่ จะได้ทำทีมต่อไปอย่างแน่นอน เพราะสัญญายังมีอยู่ถึงเดือนกุมภาพันธ์ และเขากับ อิชิอิ ก็ร่วมงานกันได้อย่างยอดเยี่ยม ทามกลางกระแสข่าวถึงความไม่แน่นอนในตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย
ในเมื่อ มาดามแป้ง ออกมาคอนเฟิร์มขนาดนี้ ยังไงเราก็ได้เห็น มาโน่ โพลกิ้ง อยู่กับทีมชาติไทย ต่อไปอย่างน้อยๆ ก็จนจบ เอเชียน คัพ ที่จะฟาดแข้งกันในช่วงต้นปีหน้า แล้วค่อยมาว่ากันว่าเขาจะได้ต่อสัญญาหรือไม่ เพราะว่ากันตามตรง แม้ว่าจะมีจุดที่ไม่ประทับใจ แต่ก็ยังไม่แย่ถึงขนาดไม่ให้โอกาส มาโน่ ในการคุมทีมชาติต่อไป รอไปวัดผลกันที่ทัวร์นาเมนต์ อย่างเป็นทางการอย่าง เอเชียน คัพ ดีกว่า
Follow us 👇:
📲Facebook: https://www.facebook.com/SabasportsThailand/
💻YouTube: https://www.youtube.com/@sabasportsthailand/videos
🕹Discord: https://dsc.gg/sabasports
🎼TikTok: https://www.tiktok.com/@sabasportsthailand
📸Instagram: https://www.instagram.com/sabasports.th/