สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ผนึกความร่วมมือค่ายรถจักรยานยนต์ชื่อดัง ลุยจัดกิจกรรม MotoGP FAN FESTIVAL 2023 Road to OR Thailand Grand Prix พบปะแฟนพันธุ์แท้โมโตจีพี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อีกหนึ่งกิจกรรมเสริมสู่เส้นทางการจัดกรังปรีซ์อันดับหนึ่งของโลกบนผืนแผ่นดินไทย สร้างประวัติศาสตร์ ความยิ่งใหญ่และการจดจำอีกครั้ง บอสใหญ่ “ตนัยศิริ” ปลื้มใจกระแสตอบรับดีเยี่ยม พร้อมแนะแฟนที่พลาดที่นั่งแกรนด์สแตนด์ ยังสามารถซื้อบัตรไรเดอร์สแตนด์ เชียร์มาร์เกซ-กวาร์ตาราโร และก้อง สมเกียรติ ได้ในช่วงโค้งสุดท้าย
ล่าสุด สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ และกระแสความนิยมโมโตจีพีในประเทศไทย จัดใหญ่จัดเต็มกิจกรรม MotoGP Fan Festival 2023 Road to OR Thailand Grand Prix ที่ ร้านตะวันแดง มหาซน ณ โคราช คอนเสิร์ต URBOYTJ มีแฟนคลับโมโตจีพีจากค่ายรถจักรยานยนต์ชื่อดัง ฮอนด้า, ยามาฮ่าและดูคาติมากกว่า 500 คน ร่วมเชียร์และลุ้นรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซี อาทิ บัตร Pit Walk ที่มอบโอกาสพิเศษในการชมรถแข่งมูลค่าหลายร้อยล้านอย่างใกล้ชิด, ของที่ระลึก ThaiGP Collection ลิขสิทธิ์แท้และของรางวัลอื่นๆมากมาย เพื่อขยายฐานแฟนคลับในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและอุ่นเครื่องก่อนที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันศึกสองล้อรายการใหญ่ที่สุดของโลก โมโตจีพีวิถีไทย ระหว่าง 27– 29 ตุลาคม 2566 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ภายใต้แนวคิด Thailand To The World
สำหรับภาพรวมความสำเร็จของแคมเปญ Road to OR Thailand Grand Prix นั้น นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่สนามช้างฯตัดสินใจรุกเข้าไปถึงถิ่น สู่แฟนพันธุ์แท้โมโตจีพีในภูมิภาคต่างๆ ทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล, ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผลการตอบรับที่ดีเยี่ยม ได้รับเสียงชื่นชม ความประทับใจจากผู้ร่วมงานอย่างมาก จบกิจกรรมทั้งสิ้น 3 ครั้งมีผู้ร่วมงานกว่า 1,500 คน ที่เข้ามาชมและเชียร์นักบิดที่ตนชื่นชอบ รวมทั้งเชียร์ ก้อง สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยเพียงหนึ่งเดียวที่ลงแข่งขันในรุ่น Moto2 ต้องยอมรับว่ากำลังใจเป็นสิ่งสำคัญในการคว้าชัยชนะของนักกีฬา และเป็นขับเคลื่อน ดึงดูดการชมถึงขอบสนาม ไทยแลนด์กรังปรีซ์ที่จะชิงชัยกันปลายเดือนตุลาคมนี้ ในอนาคตคาดว่าจะมีการขยายการจัดกิจกรรมเชียร์นักบิดไปสู่ทุกภูมิภาคทั่วไทย
“การจัดมหกรรมกีฬาขนาดใหญ่อย่างโมโตจีพีที่สมบูรณ์จนเป็นที่กล่าวถึงและจดจำ จนได้รับรางวัล Best Grand Prix of The Year เป็นผลจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ที่สำคัญที่สุดคือกระแสความนิยมของแฟนความเร็วที่ได้แสดงพลังให้เห็นว่า กีฬามอเตอร์ปสอร์ตเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่เป็นที่ชื่นชอบ น่าติดตามไม่น้อยกว่ากีฬาชนิดอื่น ยิ่งผู้ชมที่ขอบสนามเพิ่มขึ้น บรรยากาศการเชียร์จะทวีความสนุกเข้มข้นขึ้น รวมถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยที่สอดร้อยไปกับการจัดการแข่งขัน มีกิจกรรมเสริมต่างๆที่ครบเครื่องมากกว่าประเทศใดในโลก เหล่านี้เป็นเสน่ห์ดึงดูดแฟนๆ ทั้งจากต่างจังหวัดแลต่างประเทศให้เดินทางเข้ามาชมที่ขอบสนามหลายแสนแน่นทุกสแตนด์ตลอดทั้ง 3 วัน สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้นในทุกปีแน่นอน ”
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนกันยายน ฝ่ายจัดการแข่งขันยังคงเร่งเดินเครื่องในการจัดเตรียมงานอย่างรอบด้าน ด้านสนามช้างฯ ในฐานะสนามแข่งขัน ยังมีศึกสองล้อรายการสุดยิ่งใหญ่ของไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ สนามตัดสินแชมป์ประจำปี วันที่ 21-24 กันยายน ซึ่งใช้มาตรฐานการแข่งขันในรูปแบบด้วยระบบนิเวศน์ทางมอเตอร์สปอร์ตมาตรฐานสากล ทั้ง กติกา, เรซ ไดเรกเตอร์, มาร์แชล,กรรมการ ฯลฯ นำประสบการณ์การจัดโมโตจีพี มาพัฒนาสู่เรซแถวหน้าของโลกในอนาคต โดยหลังจากนั้นจะส่งไม้ต่อไปยังศึกไทยแลนด์กรังปรีซ์หรือโมโตจีพีในช่วงปลายเดือนตุลาคม โดยจะมีการปรับปรุงแทร็กและภูมิทัศน์ อบรมบุคลากรด้านต่างๆ รวมทั้งจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบทั้งสแตนด์เชียร์และลานกิจกรรมต่างๆอย่างดีที่สุด
สำหรับแฟนความเร็ว ยังสามารถหาซื้อบัตรได้ในช่วงโค้งสุดท้าย เป็นบัตรประเภทไรเดอร์สแตนด์ ซึ่งใกล้เต็มแล้ว ได้แก่ มาร์เกซ สแตนด์ (รับของที่ระลึกลิขสิทธิ์แท้จาก มาร์ค มาเกซ),กวาร์ตาราโร สแตนด์ (รับของที่ระลึกลิขสิทธิ์แท้จาก ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ) และจันทรา สแตนด์ (รับของที่ระลึกลิขสิทธิ์แท้จาก สมเกียรติ จันทรา) ราคาบัตรหลังใช้ส่วนลดผู้จากสนับสนุนถือว่าถูกและคุ้มค่ามาก สามารถใช้ร่วมกิจกรรมได้ตลอด 3 วัน
Follow us 👇:
📲Facebook: https://www.facebook.com/SabasportsThailand/
💻YouTube: https://www.youtube.com/@sabasportsthailand/videos
🕹Discord: https://dsc.gg/sabasports
🎼TikTok: https://www.tiktok.com/@sabasportsthailand
📸Instagram: https://www.instagram.com/sabasports.th/