2 นักปั่นสาวทีมชาติไทย “พรรณรายณ์ ราษี” และ “ณัฐภรณ์ อภิโมทย์” สู้อย่างเต็มที่แต่ต้านทานความแข็งแกร่งของนักปั่นเจ้าภาพจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ไม่ไหว ได้เพียงที่ 9 และ 10 รายการคีรินหญิง ในศึกสองล้อเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ด้าน “เสธ.หมึก” เผยนักปั่นไทยไม่คุ้นชินกับเวลโลโดรม 250 เมตร ซึ่งประเทศไทยมีแต่เวลโลโดรม 333.33 เมตร ทำให้เสียเปรียบคู่ต่อสู้ที่สามารถฝึกซ้อมได้ตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตาม นักปั่นไทยยังต้องลงชิงชัยอีกหลายรายการ โดยหวังลุ้นเหรียญใดเหรียญหนึ่งจาก “โกเมธ สุขประเสริฐ” ในประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ แต่ก็มีคู่แข่งสำคัญทั้งจีน และญี่ปุ่น ขอแรงใจจากพี่น้องชาวไทยช่วยเชียร์นักปั่นไทยสู้ศึกเอเชียนเกมส์ต่อไป
การแข่งขันจักรยานประเภทลู่ ในมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองชุยอัน ประเทศจีน ซึ่งห่างจากนครหางโจว ประมาณ 200 กม. เมื่อวันที่ 27 กันยายน มีการชิงชัย 3 เหรียญทอง จากรายการ ทีมเปอร์ซูตชาย, ทีมเปอร์ซูตหญิง และคีรินหญิง แต่ทีมไทยส่งแข่งขันเพียงแค่รายการคีรินหญิง โดยมีนักปั่น 2 คนลงชิงชัย ได้แก่ น.ส.ณัฐภรณ์ อภิโมทย์ และ ร.ต.ท.หญิง พรรณรายณ์ ราษี โดยมี “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูถัมภ์ เดินทางไปให้กำลังใจนักปั่นทีมชาติไทยถึงขอบสนามเช่นเคย
ผลการแข่งขันปรากฏว่า ณัฐภรณ์ และ พรรณรายณ์ เข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ แต่ไม่สามารถสู้ความแข็งแกร่งของนักปั่นจากเจ้าภาพจีน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ที่ทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศชาติละ 2 คน รวมเป็น 6 คน ส่งผลให้ 2 นักปั่นสาวทีมชาติไทย ต้องมาแข่งขันในรอบจัดอันดับ 7-12 ร่วมกับนักปั่นมาเลเซีย 2 คน พร้อมกับนักปั่นจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และไต้หวัน อีกชาติละ 1 คน ผลการแข่งขัน พรรณรายณ์ ได้อันดับที่ 9 ส่วน ณัฐภรณ์ ได้อันดับที่ 10 สำหรับเหรียญทองเป็นของ มินะ ซาโตะ ทีมชาติญี่ปุ่น, เหรียญเงิน หวัง หลี่หยวน ทีมชาติจีน, เหรียญทองแดง จาง หลินหยิน ทีมชาติจีน
ขณะเดียวกันยังมี 2 นักปั่นชายทีมชาติไทยลงแข่งขันรายการสปรินท์ รอบคัดเลือก ได้แก่ “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ และ จ.ส.ต.จตุรงค์ นิวันติ ผลปรากฏว่า ทั้งคู่พ่ายคู่ต่อสู้ในรอบ 16 คน โดยจายแพ้ โอตะ คาอิยะ จากญี่ปุ่น ส่วนจตุรงค์แพ้ โจว หยู จากจีน ต้องไปแข่งขันในรอบแก้ตัว อย่างไรก็ตาม นักปั่นไทยทั้ง 2 คนไม่สามารถผ่านเข้ารอบ 8 คนได้ เนื่องจากจายแพ้ โอ เจซอก จากเกาหลีใต้ และจตุรงค์แพ้ เซอร์เก โพโนมาร์ยอฟ จากคาซัคสถาน
พลเอกเดชา กล่าวเสริมว่า ต้องยอมรับว่าคู่แข่งหลาย ๆ ชาติมีความแข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะนักกีฬาจีนเจ้าภาพที่มีความคุ้นชินกับสนามแข่งขันที่มีระยะทางตรงสั้นกว่าเวลโลโดรมแห่งอื่น ๆ รวมทั้งนักปั่นจากญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ส่วนนักปั่นไทยก็สู้อย่างเต็มที่ทุกคน แต่อาจจะไม่คุ้นกับเวลโลโดรมปิดระยะ 250 เมตร เนื่องจากที่ประเทศไทยมีแต่เวลโลโดรมเปิดระยะ 333.33 เมตร แม้ว่าเราจะส่งนักกีฬามาฝึกซ้อมที่ประเทศจีนเป็นเวลา 1 เดือน แต่ยังไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับนักกีฬาชาติอื่น ๆ ที่เขามีเวลโลโดรม 250 เมตร และสามารถฝึกซ้อมได้ตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตาม นักปั่นไทยก็ยังต้องสู้ต่อไป ซึ่งเรายังเหลือการแข่งขันประเภทลู่อีก 2 วัน
นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า ขณะที่ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ก็หวังลุ้นเหรียญใดเหรียญหนึ่งจาก “เอ้” ส.ต.โกเมธ สุขประเสริฐ ที่ได้ตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 เรียบร้อยแล้ว แต่โกเมธก็ต้องเจอคู่แข่งสำคัญทั้งจากญี่ปุ่น และนักกีฬาเจ้าภาพ นอกจากนั้นก็มีประเภทถนน นักกีฬาชายหวังลุ้นจาก “มะตูม” พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง รายการไทม์ไทรอัล และนักกีฬาหญิงก็หวังจาก “บีซ” ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ รายการโรดเรซ ต้องขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทยส่งแรงใจมาเชียร์นักปั่นไทยสู้ศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ต่อไป
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันวันที่ 28 กันยายน มีชิง 3 เหรียญทอง จากสปรินท์ชาย, ออมเนียมชาย และเมดิสันหญิง มีนักกีฬาไทยลงชิงชัย 1 คน ได้แก่ ส.ต.ทักษ์ แก้วน้อย ในรายการออมเนียมชาย นอกจากนั้นยังมีนักกีฬาหญิงอีก 2 คน ได้แก่ ร.ต.ท.หญิง พรรณรายณ์ ราษี และ น.ส.เยาวเรศ จิตมาตย์ ลงแข่งขันรายการสปรินท์หญิงรอบคัดเลือก เริ่มแข่งขันเวลา 10.00 น.
Follow us 👇:
📲Facebook: https://www.facebook.com/SabasportsThailand/
💻YouTube: https://www.youtube.com/@sabasportsthailand/videos
🕹Discord: https://dsc.gg/sabasports
🎼TikTok: https://www.tiktok.com/@sabasportsthailand
📸Instagram: https://www.instagram.com/sabasports.th/