สวนกุหลาบ ควงแขน กรุงเทพคริสเตียน ลิ่วชิงศึกฟุตบอลจตุรมิตร

“ชมพูฟ้า” สวนกุหลาบ คว้าชัย 3 นัดรวด หลังล้ม “ลูกแม่รำเพย” เทพศิรินทร์ 2-0 เข้าชิงบอลจตุรมิตรกับ “ชงโคสีม่วง” กรุงเทพคริสเตียน ที่ชนะ “อินทรีแดง” อัสสัมชัญ 2-0

ฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 30 ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 15 พ.ย. เป็นการเล่นรอบแรกนัดสุดท้าย คู่แรก เป็นศึก “วัดฝรั่ง” ชงโคสีม่วง กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ที่ผลงาน 2 นัดแรก แพ้สวนกุหลาบวิทยาลัย 1-2 กับเสมอเทพศิรินทร์ 0-0 มี 1 แต้ม พบ “อินทรีแดง” อัสสัมชัญ ที่แพ้เทพศิรินทร์ 3-4 และแพ้สวนกุหลาบ 0-2 ยังไม่มีคะแนน ตกรอบแรกแน่นอนแล้ว

เกมนี้ทั้ง 2 ทีมต่างปรับทัพจากนัดแรกถึงฝ่ายละ 5 ตำแหน่ง โดยครึ่งแรก กรุงเทพคริสเตียนที่สถานการณ์หลังพิงฝา ต้องชนะสถานเดียวถึงจะมีโอกาสลุ้นเข้าชิง เป็นฝ่ายพับสนามบุกอยู่ข้างเดียวแต่อัสสัมชัญก็ต้านทานไว้ได้เหนียวแน่น จบครึ่งแรกเสมอ 0-0 

ครึ่งหลังยังเป็นนักเตะชงโคที่ทำได้เหนือกว่า ก่อนมาได้ 2 ประตู เริ่มจากนาที 59 ธนกร ด้วงแพง ตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามได้แค่ 7 นาที กระชากบอลหลุดจากกลางสนามเข้าเขตโทษ ก่อนซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบมุม จากนั้นช่วงทดเวลานาทีที่ 3 เสฏฐพงศ์ สาธร กองหลังดันขึ้นมาโหม่งลูกเตะมุมตุงตาข่ายเป็นฝ่ายชนะ 2-0 มี 4 คะแนน ต้องไปลุ้นเข้ารอบในการเตะคู่สุดท้ายระหว่างเทพศิรินทร์กับสวนกุหลาบ ส่วนอัสสัมชัญแพ้รวด รอชิงอันดับ 3  ในวันที่ 18 พ.ย.นี้

คู่หลัง”ลูกแม่รำเพย” เทพศิรินทร์ แชมป์เก่าและเจ้าภาพ ที่มี 4 แต้ม พบคู่ปรับตลอดกาล”ชมพูฟ้า” สวนกุหลาบ ที่ชนะรวด ผ่านเข้าชิงไปเรียบร้อยแล้ว ครึ่งแรกสวนกุหลาบ ที่แม้จะพักตัวจริงขนสำรองลงแบบยกทีม เป็นฝ่ายทำเกมได้ดีกว่า พลิกยิงนำ 1-0 นาที 30 จากจังหวะกระชากจากกลางสนามของ โชคชัย โต๊ะยะเล หลุดเข้าไปซัดระยะ 25 หลา บอลพุ่งเรียดเข้าประตูไป

หลังเสียประตู เทพศิรินทร์ที่ต้องการผลเสมอจึงจะเข้ารอบ เปลี่ยนเอาตัวหลักอย่าง ปภาวิชญ์ ต่ออ่อน ศ็อฟฟาน สันหรน ลงสนามทวงประตูคืน เป็นฝ่ายบุกอยู่แทบจะข้างเดียว แต่ไปพลาดในจังหวะสุดท้ายหมด แถมมาเสียประตูที่ 2 เพิ่มในนาที 90+6 จากฟรีคิกข้างสนามระยะกว่า 40 หลา ที่ ศิวรุต เสียมไหม ตักย้อยเข้าประตูไป หมดเวลา สวนกุหลาบชนะ 2-0 เก็บชัย 3 นัดรวด เข้าไปชิงกับกรุงเทพคริสเตียน ที่มี 4 แต้มเท่าเทพศิรินทร์ แต่มีประตูได้เสียที่ดีกว่า ในวันที่ 18 พ.ย. เวลา 16.00 น. ส่วนเทพศิรินทร์ชิงที่ 3 กับอัสสัมชัญ เวลา 13.00 น.